Last updated: 27 มี.ค. 2565 | 1001 จำนวนผู้เข้าชม |
ก่อนที่จะทำเรื่องเคลมประกันรถ เราต้องมั่นใจเสียก่อนว่า อุบัติเหตุหรือความเสียหายที่เกิดขึ้น อยู่ในเงื่อนไขความคุ้มครองการเคลมประกันที่เราได้ทำไว้หรือไม่ ซึ่งการเคลมประกันแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ
เคลมแห้ง คือ การเคลมประกันหลังจากที่รถยนต์ได้เกิดความเสียหายจากอุบัติเหตุไปแล้วพักใหญ่ โดยมากเป็นอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณี เช่น ชนฟุตบาธ ชนต้นไม้ ชนกำแพง เป็นต้น (คุ้มครองเฉพาะประกันรถยนต์ชั้น 1 เท่านั้น) หรือเป็นความเสียหายเล็กๆ น้อยๆ เช่น เฉี่ยวชนกับรถด้วยกัน แต่รถไม่เสียหายมาก ยังสามารถขับได้อยู่ ซึ่งผู้เอาประกันจะต้องเป็นผู้บันทึกหลักฐานเอง เริ่มจากถ่ายรูปรถยนต์ รวมถึงจดบันทึกวันเวลา สถานที่เกิดเหตุ ลักษณะของความเสียหาย จากนั้นจึงนำข้อมูลรายละเอียดต่างๆ สำหรับการเคลมประกันให้กับเจ้าหน้าที่ประกันในวันที่เขามาตรวจสอบความเสียหายของรถยนต์ เช่น หลักฐานที่บันทึกไว้ ใบขับขี่ บัตรประจำตัวประชาชน หน้าตารางกรมธรรม์ ทะเบียนรถยนต์ จากนั้นเขาจะทำการประเมินราคาค่าชดเชยความเสียหายในการซ่อมแซมรถยนต์ตามที่ระบุไว้กรมธรรม์ พร้อมกับออกใบเคลม แล้วให้คุณนำรถยนต์ไปซ่อมที่ศูนย์ซ่อมหรืออู่ในเครือได้เลย
เคลมสด คือ การเคลมประกันรถหลังจากที่เกิดอุบัติเหตุทันที โดยมีเจ้าหน้าที่จากบริษัทประกันเดินทางมายังที่เกิดเหตุเพื่อทำเรื่อง และเก็บหลักฐานต่างๆ ในจุดเกิดเหตุ เช่น ถ่ายรูปรถยนต์ของคุณและคู่กรณี รวมถึงข้อมูลรายละเอียดต่างๆ เช่น ชื่อ นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ ทะเบียนรถ เลขที่กรมธรรม์ และลักษณะของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น เป็นต้น จากนั้นจึงออกใบเคลมให้แก่ผู้เอาประกันสำหรับนำรถเข้าซ่อมกับศูนย์หรืออู่ในเครือ หลังจากนั้นศูนย์หรืออู่ซ่อมจะประเมินราคาค่าซ่อม เพื่อตกลงราคาและวางบิลกับบริษัทประกันภัย ซึ่งการเคลมสดนั้นสามารถใช้ได้กับ ประกันรถยนต์ชั้น 1 ประกันรถยนต์ชั้น 2+ และประกันรถยนต์ชั้น 3+
แต่สำหรับในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณี หากทำประกันรถยนต์ชั้น 1 จะสามารถเคลมได้ทุกกรณี ยกเว้นในบางกรมธรรม์อาจมีค่าเสียหายส่วนแรก ที่ผู้เอาประกันต้องจ่ายเองก่อน สำหรับในกรณีที่รถชนไม่มีคู่กรณี ซึ่งหากมีค่าเสียหายที่เกินกว่านั้น ทางบริษัทประกันจะเป็นผู้รับผิดชอบที่เหลือ โดยข้อดีข้องการเคลมสดนั้น ก็คือความรวดเร็วในการดำเนินเรื่องและการตรวจสอบหลักฐาน เพราะเป็นการแจ้งเคลมหลังที่เกิดอุบัติเหตุทันทีนั่นเอง
หลังจากที่แจ้งเจ้าหน้าที่ประกันว่าเราจะทำการเคลมประกัน และเขาได้ทำการตรวจสอบสภาพรถ ร่องรอยความเสียหาย รวมไปถึงหลักฐานต่างๆ เรียบร้อยแล้ว ให้เตรียมเอกสารสำหรับติดต่อเคลมประกันกับทางศูนย์หรืออู่ซ่อมในเครือ ดังนี้
บัตรประจำตัวประชาชน
ใบขับขี่ หรือสำเนา
เล่มทะเบียนรถยนต์ หรือสำเนา
สำเนากรมธรรม์ประกันภัย
ใบรับรองความเสียหายหรือใบเคลมที่ทางบริษัทประกันภัยออกให้
เมื่อเอกสารต่างๆ เรียบร้อย คราวนี้ก็ถึงขั้นตอนการนำรถเข้าเคลมประกัน ซึ่งอาจใช้เวลาซ่อมแซมมากหรือน้อยแตกต่างกันไปตามแต่ละกรณี แต่ถึงไม่ว่าคุณจะเคลมประกันในรูปแบบใด จะเลือกเคลมสด หรือเคลมแห้ง ก็ต้องแจ้งกับเจ้าหน้าที่ประกันทุกครั้งครับ
11 มิ.ย. 2565
17 ต.ค. 2564
7 มี.ค. 2566