Last updated: 27 มี.ค. 2565 | 630 จำนวนผู้เข้าชม |
ใบขับขี่ หรือ "ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์" เป็นบัตรที่ผู้ขับขี่รถยนต์ทุกคนจะต้องพกติดตัวไว้ทุกครั้งเมื่อขับขี่รถยนต์ ตาม พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ. 2522 (มาตรา 64) หากฝ่าฝืน มีโทษดังนี้
ผู้ขับรถยนต์โดยไม่มีใบขับขี่ ผู้นั้นต้องโทษจำคุก 1 เดือน ปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
กรณีที่ผู้ขับขี่ขับรถยนต์ ในขณะที่ใบขับขี่ของตนเองหมดอายุ (มาตรา 65) จะต้องโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท
ผู้ขับขี่สามารถต่ออายุใบขับขี่ก่อนหมดอายุได้ล่วงหน้า 3 เดือน หรือภายใน 1 ปีหลังจากหมดอายุไปแล้ว
หากใบขับขี่หมดอายุไปแล้วเกินกว่า 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี ผู้ขับขี่จะต้องสอบข้อเขียนใหม่ โดยการสอบข้อเขียน ข้อสอบมีอยู่ 50 ข้อ ผู้ขับขี่จะต้องตอบให้ถูก 45 ข้อจาก 50 ข้อ ถึงจะผ่าน
กรณีที่หมดอายุเกิน 3 ปี ผู้ขับขี่ต้องสอบข้อเขียน และสอบภาคปฏิบัติทั้ง 3 ท่าใหม่ เช่นเดียวกับผู้ที่ขอรับใบขับขี่เป็นครั้งแรก
ท่าที่ 1 จอดรถตรงจุด
ท่าที่ 2 ถอยรถเข้าซอง (หักพวงมาลัยได้ไม่เกิน 7 ครั้ง)
ท่าที่ 3 ทางเทียบขนานทางเท้า
ใบขับขี่เดิม หรือใบแทน
บัตรประชาชนฉบับจริง พร้อมสำเนา
1. ตรวจสอบเอกสาร และออกคำขอ
2. ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย
- ทดสอบการมองเห็นสี ที่จำเป็นในการขับรถ ซึ่งก็คือ การมองเห็น สีเขียว เหลือง แดง
- ทดสอบสายตาทางลึก โดยผู้ขับขี่จะต้องปรับแท่งแนวตั้งให้ขนานกันได้มากที่สุด
- ทดสอบสายตาทางกว้าง ผู้ขับขี่จะต้องสามารถบอกสีที่มุมตา โดยล็อกหน้าตรงได้อย่างถูกต้อง
- ทดสอบปฎิกิริยาเท้า (ความสามารถในการใช้เบรคเท้า)
3. เข้ารับการอบรมกฎจราจร 1 ชั่วโมง
4. ผู้ขับขี่ชำระค่าธรรมเนียมจำนวน 605 บาท
ค่าใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ 500 บาท
ค่าถ่ายรูปและพิมพ์บัตร 100 บาท
ค่าคำร้อง 5 บาท
พร้อมถ่ายรูปพิมพ์ใบขับขี่ และรับใบขับขี่
เห็นมั้ยล่ะครับว่า "การต่ออายุใบขับขี่เป็นเรื่องง่ายๆ" ที่สำคัญอย่าปล่อยให้ใบขับขี่หมดอายุก่อน แล้วจึงไปดำเนินการต่ออายุล่ะ
เพราะมีความเสี่ยงสูงที่จะโดนตำรวจจับ ในข้อหาขับขี่รถยนต์โดยที่ใบขับขี่หมดอายุนะครับ
สนใจทำประกันภัยรถ คลิก >> https://cutt.ly/0ACeQOV
11 มิ.ย. 2565
7 มี.ค. 2566
17 ต.ค. 2564