Targeted Therapy หรือการรักษาแบบมุ่งเป้า คืออะไร

Last updated: 27 มี.ค. 2565  |  1643 จำนวนผู้เข้าชม  | 

Targeted Therapy

Targeted Therapy คืออะไร

การรักษาแบบจำเพาะเจาะจงต่อเซลล์มะเร็ง หรือ Targeted Therapy เป็นการรักษาโรคมะเร็งแบบออกฤทธิ์จำเพาะเจาะจงต่อเซลล์มะเร็ง โดยให้ยาหรือสารไปยับยั้งกระบวนการส่งสัญญาณระดับเซลล์ ซึ่งเป็นต้นเหตุของการเจริญเติบโตและแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง

ชนิดของมะเร็ง ที่สามารถรักษาด้วย Targeted Therapy

ในปัจจุบัน Targeted Therapy สามารถใช้ในการรักษาโรคมะเร็งได้หลายชนิด อาทิ

  • มะเร็งปอด

  • มะเร็งตับ

  • มะเร็งไต

  • มะเร็งลำไส้ใหญ่

  • มะเร็งเต้านม

  • มะเร็งรังไข่

  • มะเร็งศีรษะและลำคอ

  • มะเร็งต่อมน้ำเหลือง

ประเภทของยาในกลุ่ม Targeted Therapy

ยาในกลุ่ม Targeted Therapy แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่

  • Monoclonal Antibodies ส่วนใหญ่จะออกฤทธิ์โดยจับกับเป้าหมายที่อยู่ภายนอกเซลล์หรือบนผิวเซลล์แล้วจึงทำลายเซลล์มะเร็ง หรือทำให้เซลล์มะเร็งไม่สามารถแบ่งตัวหรือเจริญเติบโตได้ บางครั้งก็มีการนำสารกัมมันตภาพรังสีผูกติดกับ Monoclonal Antibodies เพื่อให้เกิดการทำลายเซลล์มะเร็งได้มากขึ้น ทั้งนี้ยา Monoclonal Antibodies มักอยู่ในรูปแบบของยาฉีด

  • Small molecules เป็นยาที่มีโมเลกุลเล็ก สามารถผ่านเข้าสู่เยื่อหุ้มเซลล์ จึงสามารถจับกับเป้าหมายทั้งที่อยู่ภายในเซลล์และบนผิวเซลล์ได้ โดยส่วนใหญ่ยาประเภท Small Molecules จะอยู่ในรูปแบบของยารับประทาน

ทั้งนี้ กลไกการออกฤทธิ์ของยาจะแตกต่างกันไป ขึ้นกับกระบวนการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งชนิดนั้นๆ

เป้าหมายของการรักษามะเร็งแบบ Targeted Therapy

การรักษามะเร็งด้วยวิธี Targeted Therapy ไม่ว่าจะเป็นการรักษาเดี่ยวหรือการรักษาร่วมกับเคมีบำบัดหรือรังสีรักษา เป้าหมายของการรักษาจะขึ้นอยู่กับชนิดและระยะของมะเร็ง ดังนี้

  • รักษาโรคมะเร็งให้หายขาด

  • ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง

  • ทำลายเซลล์มะเร็งที่สามารถแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกาย

  • บรรเทาอาการต่างๆ ที่มีสาเหตุจากมะเร็ง

แนวทางการรักษามะเร็งแบบ Targeted Therapy

เนื่องจากการใช้ Targeted Therapy ในการรักษาโรคมะเร็งบางชนิด ผู้ป่วยจำเป็นต้องมีตัวรับหรือเป้าหมาย (Target) ที่ตอบสนองต่อยา ก่อนเข้ารับการรักษา แพทย์จะต้องทำการตรวจผู้ป่วยก่อนว่ามียีนหรือตัวรับที่สามารถใช้รักษาด้วย Targeted Therapy ได้หรือไม่

ระยะเวลาของการรักษา

ระยะเวลาและความถี่ของการรักษาด้วย Targeted Therapy ขึ้นกับชนิดของมะเร็ง เป้าหมายของการรักษา ยาที่ใช้ และการตอบสนองต่อยาของผู้ป่วย ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาถึงแผนการรักษาที่เหมาะสมให้กับผู้ป่วยแต่ละราย

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น

แม้ว่าการรักษามะเร็งแบบ Targeted Therapy จะมีผลข้างเคียงน้อยกว่าการให้เคมีบำบัด แต่ก็ยังมีผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งผลข้างเคียงอาจแตกต่างกันไปตามชนิดและขนาดของ Targeted Therapy ที่ได้รับ โดยส่วนใหญ่ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น

  • อาการทางผิวหนัง เช่น ผิวหนังอักเสบ มีผื่นที่ผิวหนัง

  • ท้องเสีย

  • ผลต่อหัวใจ

  • ผลต่อตับ

  • ผลต่อไต

  • ความดันโลหิตสูง

ดังนั้น เมื่อได้รับการรักษาแบบ Targeted Therapy ผู้ป่วยจึงควรสอบถามถึงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นอย่างละเอียด และควรพบแพทย์ทันทีหากมีอาการผิดปกติเกิดขึ้น

แหล่งข้อมูล: https://www.bumrungrad.com/

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้